บัวบก(Gotu Kola, Asiatic Pennywort, Indian Pennywort)
ชื่อวงศ์(Family Name):
Apiaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica L.
Photo CR: http://www.atoneonline.com/blog/2012/the-abundant-benefits-of-the-herb-gotu-kola/ |
บัวบกเป็นพืชที่นิยมขึ้นในแถบร้อนชื้น และเป็นพืชท้องถิ่นของประเทศอินเดีย,
ศรีลังกา, ออสเตรเลียเหนือ, อินโดนีเซีย, อีหร่าน, มาเลเซีย,
มีลานีเซีย(หมู่เกาะสีดำ), ฟิลิปินส์, ปาปัวนิวกีนี,
และส่วนอื่นๆของทวีปเอเชีย
บัวบกเป็นพืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนโบราณได้แก่
การแพทย์อายุรเวท, แอฟริกัน และจีน(Wikipedia,
2014)
นอกจากจะเป็นพืชสมุนไพรเพื่อการรักษาแล้ว ยังสามารถใช้เป็นผัก
หรือใช้ทำเครื่องดื่มอีกด้วย โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้คือส่วนใบ
องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญที่พบในใบบัวบก
เป็นสารจำพวกไตรเตอร์พีนซาโพนิน(Triterpenes
Saponins) ซึ่งมีมากมายหลายชนิดแต่ที่สำคัญได้แก่
กรดเอเชียติค(Asiatic Acid), กรดมาเดคาสสิก(Madecassic Acid), เอเชียติโคไซด์(Asiaticoside) และมาเดคาสโซไซด์(Madecassoside)
ซึ่งปริมาณของสารเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของใบบัวบก โดยปริมาณที่แตกต่างกันเป็นผลจากสถานที่ปลูก และสิ่งแวดล้อม (Hashim, 2011)
ในใบบัวบกยังมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ซึ่งได้แก่ เควอซิทิน(Quercetin), รูทิน(Rutin), แคมพ์ฟิรอล(Kaempferol), คาทิชิน(Catechin), อะพิจินิน(Apigenin) และ นารินจิน(Naringin) (Hashim,
2011)
คุณสมบัติที่สำคัญในการป้องกันและรักษาโรค
ต้านออกซิเดชั่น
- มีความสามารถในการต้านออกซิเดชั่นได้ใกล้เคียงวิตามินซี, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และสมุนไพรจากต่างประเทศได้แก่ โรสแมรี่ และ เสจ(sage) (Hashim, 2011)
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภูมิคุ้มกันในการต้านอนุมูลอิสระ (Hashim, 2011)
- สารเอเชียติโคไซด์ที่พบในใบบัวบกมีคุณสมบัติในการต้านออกซิเดชั่นในระยะแรกของกระบวนการสมานแผล (Hashim, 2011)
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการต้านออกซิเดชั่นได้แก่ ซุปเปอร์ออกไซด์ไดมิวเตส, คะทาเลส, และกลูต้าไธโอนเปอร์ออกซิเดส (Hashim, 2011)
- จากการศึกษาในหนูที่ได้รับสารสกัดจากใบบัวบก และใบบัวบกผงเป็นเวลา 25 สัปดาห์พบว่ามีการเกิดออกซิเดชั่นภายในลดลง (Hashim, 2011)
- มีฤทธิ์การต้านออกซิเดชั่นของโมเลกุลน้ำตาลซึ่งคุณสมบัตินี้จะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน (ฐิติพร ทับทิมทอง และคณะ, 2549)
ปกป้อง และฟื้นฟูสมอง
- ป้องกันความจำเสื่อมในหนูทดลอง(Hashim, 2011)
- ปกป้องสารพิษต่างๆที่จะมาทำลายสมอง เช่นโมโนโซเดียมกลูตาเมท และ 3-nitropropionic acid (Hashim, 2011)
- เพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเซลล์สมอง (Hashim, 2011)
- จากการศึกษาในผู้สูงอายุที่ได้รับสารสกัดจากใบบัวบกในปริมาณ 750 มก. ต่อวันเป็นเวลา 2 เดือนพบว่าผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพในด้านความจำ และการรับรู้ และมีภาวะอารมณ์ดีขึ้น(Hashim, 2011)
- จากการศึกษาในอาสาสมัครวัยกลางคนที่มีสุขภาพดี และผู้สูงอายุที่ได้รับใบบัวบกปริมาณ 3-4 กรัม(ตามน้ำหนักตัว)เป็นเวลา 2 เดือนแสดงให้เห็นว่าบัวบกสามารถลดการเสื่อมของระบบการทำงานในด้านความจำ และการรับรู้ที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นได้(Hashim, 2011)
- สารสกัดด้วยน้ำของใบบัวบกมีฤทธิ์ในการป้องกันการเกิดโรคพาร์คินซัน(Hashim, 2011)
- มีคุณสมบัติในการคลายเครียด และคลายกังวลทั้งจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง และมนุษย์(Hashim, 2011)
สมานแผล
- สารเอเชียติโคไซด์ที่พบในใบบัวบกมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเส้นเลือดฝอย ยับยั้งการอักเสบซึ่งจะก่อให้เกิดแผลเป็น และเพิ่มความสามารถในการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย(Gohil, et al., 2010)
- สารมาเดคาสโซไซด์ที่พบในใบบัวบกเมื่อมีการศึกษาโดยนำไปให้หนูทดลองกินพบว่ามีฤทธิ์ในการรักษาแผลไหม้ กระตุ้นให้แผลปิดเร็ว ลดการอักเสบ(อัญชลี, 2554)
- ช่วยให้แผลในผู้ป่วยโรคเบาหวานหายเร็วขึ้น โดยมีการศึกษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับประทานสารสกัดจากบัวบกแผลที่เท้าจะหายเร็วกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับ(Paocharoen, 2010)
ต้านอักเสบ
- สารสำคัญที่พบในใบบัวบกได้แก่ เอเชียติโคไซด์ และมาเดคสโซไซด์ มีฤทธิ์ต้านอักเสบโดยยับยั้งการสร้างสารก่อการอักเสบ, เพิ่มสารที่สามารถต้านการอักเสบ และลดการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ก่อให้เกิดการอักเสบ(อัญชลี, 2554)
- สารสกัดด้วยน้ำ และเอธานอลของบัวบกมีฤทธิ์ต้านอักเสบเทียบเท่ายาไอบิวโพรเฟน(ibuprofen)ในปริมาณการศึกษาที่เท่ากัน(อัญชลี, 2554)
- สารสกัดน้ำจากบัวบกมีคุณสมบัติในการลดอาการบวมเนื่องจากการอักเสบ(อัญชลี, 2554)
- คุณสมบัติการต้านอักเสบของบัวบกนี้จะเป็นประโยชน์ในการรักษาโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์(Gohil, et al., 2010)
รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
- ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากอัลกอฮอล์ โดยการเพิ่มความแข็งแรงของเยื้อบุผนังกระเพาะอาหาร(Gohil, et al., 2010)
- ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาอาหารเนื่องจากความเครียด โดยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทกาบา(GABA)ในสมอง (Gohil, et al., 2010)
- เพิ่มการหลั่งเมือกในกระเพาะ(Gohil, et al., 2010)จึงป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
- มีการศึกษาในผู้ป่วยที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารโดยให้สารสกัดจากบัวบกในปริมาณ 60 มก. พบว่า 93% ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น และ 73% แผลหายจากการตรวจด้วยการส่องกล้อง(อัญชลี, 2554)
การศึกษาความเป็นพิษ
พบอาการแพ้ในผู้ที่ใช้บัวบกในการทาภายนอก(Gohil, et al., 2010; อัญชลี, 2554)
จากการศึกษาพิษเฉียบพลันของผงบัวบกพบว่าขนาดที่ทำให้หนูตายมากร้อยละ
50 (LD50) มีค่ามากกว่า 8 ก/ กก. (น้ำหนักตัว) (อัญชลี, 2554)
จากการศึกษาพิษเรื้อรัง ไม่พบความเป็นพิษต่อหนูที่ขนาดการศึกษาสูงสุด
1200 มก/กก.(น้ำหนักตัว) (อัญชลี, 2554)
อาจเป็นพิษต่อตับโดยพบอาการดีซ่านจากการรับประทานบัวบกในรูปแบบเม็ด(ไม่ทราบปริมาณการทาน)
เป็นเวลา 20 - 60 วัน (Jorge&Jorge, 2005) แต่อย่างไรก็ดีต่อมาได้มีการศึกษาในผู้สูงอายุที่ได้รับสารสกัดบัวบกชนิดแคปซูลปริมาณ
500 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งการศึกษานี้ไม่พบความเป็นพิษที่ตับแต่ประการใด(Tiwari, et
al., 2008)
การนำไปใช้ในการแพทย์แผนโบราณ
ในการแพทย์แผนโบราณอายุเวท
และการแพทย์จีนบัวบกได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการกระวนกระวาย และช่วยให้ผ่อนคลาย
ส่วนตำราสรรพคุณยาไทยว่าบัวบกมีรสขมเฝื่อน แก้เมื่อยขัด
แก้ลงท้อง(ถ่ายท้อง) เป็นอายุวัฒนะ แก้โลหิตตกทวาร(เลือดออกที่ก้น)
อาเจียนเป็นเลือด มีอาการแสบอก แก้ปัสสาวะขัด แก้ฝี แก้บวม แก้เจ็บคอ
สมานแผล(คณะอนุกรรมการจัดทำตำราอ้างอิงยาสมุนไพรไทย, 2554)
การนำไปใช้
วิธีการคั้นน้ำใบบัวบก คือ ใบบัวบก 1 กำมือหรือ 1
แก้วคือเอาใบบัวบกยัดใส่แก้วพอแน่น ตำหรือปั่นให้ละเอียดเติมน้ำ 1
แก้วคนให้เข้ากัน แล้วกรองกินแต่น้ำ เติมน้ำตาลหรือเกลือ กินครั้งละ 1 แก้ว วันละ
3 ครั้งก่อนอาหาร แต่อย่ากินติดต่อกันปริมาณมากเป็นเวลานานๆ
เพราะบัวบกมีรสเย็นจัดอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้(สำนักงานพัฒนาข้อมูลข่าวสารสุขภาพ)
ในเรื่องของยาอายุวัฒนะในการใช้จะมีการผสมพริกไทยลงไปเพื่อแก้ฤทธิ์เย็นของบัวบกโดย
ใช้ผงใบบัวบก 2 ส่วนผสมผงพริกไทย 1 ส่วน ละลายน้ำร้อนกินก่อนนอนครั้งละครั้งช้อนชา
โดยมีคำกล่าวว่า “กิน 1 เดือน โรคร้ายหายสิ้นมีปัญญา กิน 2 เดือน
บริบูรณ์น่ารักมีเสน่ห์ กิน 3 เดือนริดสีดวงสิบจำพวกหายสิ้น กิน 4
เดือนลมสิบจำพวกหายหมด กิน 5 เดือนโรคร้ายในกายทุเลา กิน 6 เดือนไม่จักเมื่อยขบ
กิน 7 เดือนผิวกายจะสวยงาม กิน 8 เดือน ร่างกายสมบูรณ์เสียงเพราะ”(สำนักงานพัฒนาข้อมูลข่าวสารสุขภาพ)
ที่มา
- Wikipedia. (2014). Centella asiatica (online). Available : http://en.wikipedia.org/wiki/Centella_asiatica [10 February 2014]
- Hashim, P. (2011). Centella asiatica in food and beverage applications and its potential antioxidant and neuroprotective effect. International Food Research Journal, 18(4), 1215-1222.
- ฐิติพร ทับทิมทอง และคณะ. (2549). ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นของเถาวัลย์เปรียง, รางจืด, ผักคาวตอง, ปัณจขันธ์ และบัวบก. วารสารการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ปีที่ 4 : 44
- Gohil, K. J., Patel, J. A., & Gajjar, A. K. (2010). Pharmacological review on Centella asiatica: a potential herbal cure-all. Indian journal of pharmaceutical sciences, 72(5), 546.
- อัญชลี จูฑะพุทธิ. (2554). บัวบกสมุนไพรแห่งปี. วารสารการแพทย์แผนไทย์และแพทย์ทางเลือก ปีที่ 9 : 84-93
- Paocharoen, V. (2010). The efficacy and side effects of oral Centella asiatica extract for wound healing promotion in diabetic wound patients. J Med Assoc Thai, 93(Suppl 7), S166-S170.
- Jorge, O. A., & Jorge, A. D. (2005). Hepatotoxicity associated with the ingestion of Centella asiatica. Revista Espanola De Enfermedades Digestivas, 97(2), 115-124.
- Tiwari, S., Singh, S., Patwardhan, K., Gehlot, S., & Gambhir, I. S. (2008). Effect of Centella asiatica on mild cognitive impairment (MCI) and other common age-related clinical problems. Digest Journal of Nanomaterials and Biostructures, 3(4), 215-220.
- คณะอนุกรรมการจัดทำตำราอ้างอิงยาสมุนไพรไทย. (2554). ตำราอ้างอิงสมุนไพรไทย: บัวบก. วารสารการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ปีที่ 9 : 57-61
- สำนักงานพัฒนาข้อมูลข่าวสารสุขภาพ. บัวบกสมุนไพรมหัศจรรย์ บำรุงความจำ บำรุงสุขภาพ(ออนไลน์). สืบค้นจาก http://www.hiso.or.th/hiso/health_news/health_story5_10.php [26 กุมภาพันธ์ 2557]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น